เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิตัลทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคภาพยนตร์ของผู้บริโภคอย่างมาก ตั้งแต่การไปโรงหนังไปจนถึงการสตรีมภาพยนตร์ออนไลน์ที่บ้าน
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์นี้ ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่การไปโรงภาพยนตร์ถูก จำกัด การดูหนังที่บ้านจึงเป็นทางเลือกความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ ในอดีตหนังมักจะถูกสร้างขึ้นเพื่อฉายในโรงภาพยนตร์สร้างความพิเศษในการเข้าถึงเนื้อหา
เมื่อเวลาผ่านไปก็จะสามารถเข้าถึงได้ผ่านดีวีดีหรือทางออนไลน์ ดังนั้นเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถดูหนังสดได้พวกเขาจะต้องไปโรงภาพยนตร์ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันผู้คนจำนวนมากขึ้นเลือกที่จะดูภาพยนตร์บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเช่น Netflix, Amazon Prime หรือ Hulu Plus เนื่องจากไม่เพียง
แต่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเหล่านี้ยังมีหนังเก่าๆ ให้เลือกชม แต่ยังสร้างและผลิตเนื้อหาต้นฉบับของตนเองและทำให้เนื้อหาดังกล่าวพร้อมใช้งานบนแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องแสดงในโรงภาพยนตร์ก่อน ยิ่งไปกว่านั้นค่าสมัครบริการของพวกเขาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับราคาตั๋วหนังใบเดียว
ตามสถิติจากบันเทิงออนไลน์จำนวนผู้ใช้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ‘Netflix’ ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นสามเท่าภายในระยะเวลาเพียงสองปีจากผู้ใช้ 105,000 รายในปี 2560 เป็น 358,000 ผู้ใช้ในปี 2562 และคาดว่าจะมีผู้ใช้มากกว่า 546,000 รายในปี 2563
การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์เหล่านี้ทำให้ประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้แพลตฟอร์มสตรีมมิงเหล่านี้สามารถมองเห็นได้เพื่อให้ความหวังสำหรับภาพยนตร์อิสระและภาพยนตร์ท้องถิ่นจะสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้และเสนอทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นให้กับผู้ชม